รีวิว แร็คจักรยาน THULE รุ่น VeloCompact 925

"การออกแบบที่ลงตัว ติดตั้งง่ายและรวดเร็ว สะดวกสบายและปลอดภัยในการเดินทาง ถ้าคุณกำลังมองหา แร็คจักรยานท้ายรถ ที่คุ้มค่าเพื่อพาคุณและจักรยานคันโปรดของคุณไปในทุกๆที่ THULE VeloCompact คือคำตอบทั้งหมดที่คุณต้องการ"

ข้อความข้างต้นคือคำจำกัดความ ที่สื่อต่างประเทศรีวิวเอาไว้ หลังจากได้ทำการทดสอบ Bike Rack หรือ แร็คจักรยานท้ายรถ รุ่นล่าสุดของ THULE ที่เพิ่งเปิดตัวออกมาในปลายปี 2015 นั่นก็คือ “THULE VeloCompact “ ตระกูลล่าสุดของแร็คจักรยานท้ายรถ จากแบรนด์อันดับหนึ่งของโลก ผู้นำในวงการอุปกรณ์บรรทุกสัมภาระและแร็คจักรยาน อย่าง THULE โดยผู้ที่รีวิวได้ทดลองใช้งานจริงถึง 6 เดือน จึงได้คลอดรีวิวนั้นออกมา ทันทีที่ทีมงาน THULE CLUB & D2 AutoRack ได้อ่าน คำจำกัดความที่สื่อต่างประเทศสรุปออกมาแบบนั้น เราจึงไม่รอช้า ทำรีวิวฉบับภาษาไทยออกมาบ้าง เพื่อพิสูจน์ว่า ข้อความข้างต้นนั้น เป็นการมโน คุยโวหรือโฆษณาเกินจริงหรือเปล่ากันแน่ ดังนั้นเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา อย่ารอช้าเรามาพิสูจน์ให้เห็นกันไปเลย

THULE VeloCompact เข้ามาในไทยและได้เริ่มวางจำหน่ายในเดือนธันวาคม 2558 โดยเป็น แร็คจักรยานท้ายรถ ที่ผลิตออกมาเพื่อแทนที่ แร็คจักรยาน รุ่นก่อนหน้า อย่าง THULE Euroway G2 ซึ่งก็ถือว่าเป็นแร็คจักรยานรุ่นที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เพียงแต่เมื่อวางจำหน่ายมาเป็นระยะเวลานาน ก็จำเป็นต้องออกรุ่นใหม่ๆ ออกมาบ้างเพื่อพัฒนารูปแบบและประสิทธิภาพให้ดียิ่งๆ ขึ้นไป

โดย แร็คจักรยานท้ายรถ รุ่น THULE VeloCompact  มีให้เลือกทั้งหมดสองรุ่น คือ

THULE VeloCompact 925 บรรทุกจักรยานได้ 2 คัน
http://www.d2autorack.com/index.php?route=product/product&path=2&product_id=9

โดยรุ่นที่เราจะนำมารีวิวกันก่อนในวันนี้คือ THULE VeloCompact 925 (2bike)

ตัวกล่อง

ป้ายข้างกล่องระบุว่าผลิตที่ประเทศโปแลนด์ (โรงงานใหญ่ของ THULE ในการผลิตสินค้าอยู่ที่ประเทศโปแลนด์) สินค้ารับประกันถึง 5 ปี

เปิดกล่องออกมาดูด้านในกัน

ประกอบตามคู่มือ ไม่ยาก ไม่เกิน 2 นาทีก็เสร็จ (เหมือนประกอบของจาก IKEA สวีเดนเหมือนกัน)

ตัวอย่าง Towbar หรือ ขอลากเรือ ขนาด 50 mm (ถ้าจะใช้แร็คจักรยานรุ่นนี้ต้องมี Towbar ก่อน ถ้ายังไม่มีทางร้านมีบริการติดตั้งให้ครับ)

http://www.d2autorack.com/index.php?route=product/product&path=8&product_id=45

บาร์ตัวยูสำหรับใส่แขนจับ เปลี่ยนเป็นสีดำทำให้ดูภูมิฐานและมีความสวยงามมากยิ่งขึ้น และในความเห็นส่วนตัวของทีมงาน คิดว่าสีดำจะเป็นรอยยากมากกว่าสีเงินแบบเดิมในรุ่น Euroway

แขนจับยึดเฟรม มีมาให้ 2 ชิ้น สั้นและยาว ตามตำแหน่งจักรยาน

กุญแจล็อคกันจักรยานหาย และขาจับยึดเฟรมจักรยานเคลือบด้วยยางไม่ทำให้เฟรมจักรยานเป็นรอย

โดยลูกบิดที่ใช้บีบยึดตัวเฟรมจะเป็นหัวกุญแจด้วยในตัวโดยใช้กุญแจดอกเดียวกันกับตัวล็อค แร็คจักรยาน ด้านล่าง การล็อคเพื่อกันขโมย ป้องกันจักรยานหาย ใช้วิธีการบิดกุญแจเพื่อล็อค เมื่อล็อคแล้วลูกบิดจะยังหมุนได้อยู่ แต่เป็นการหมุนฟรี ไม่กินเกลียว ทำให้ขาจับที่บีบเฟรมอยู่ไม่คลายออก

ปลั๊กไฟตัวผู้สำหรับต่อกับไฟรถ เป็นแบบ 7 พิน (7 pin) มีช่องเก็บปลั๊กไฟเวลาไม่ใช้ติดมาให้

กรอบสัญญาณไฟท้ายรูปทรงสวยงาม สามารถเลื่อนออกไปด้านข้างทั้งสองข้าง เพื่อมุมมองจากรถที่ตามหลังจะได้กว้างขึ้น เสมือนมองไฟท้ายรถยนต์

กรอบสำหรับติดแผ่นป้ายทะเบียน

ถาดรองล้อ มีที่จับเพื่อสอดมือไปดึงเลื่อนออกด้านข้าง

สายรัดล้อมีความยาวมากทีเดียวเพื่อรองรับขนาดของล้อได้หลากหลาย มาพร้อมระบบการดึงเพื่อรัดล้อแบบ  pump buckles

ขนาดตอนพับแขนจับลงมา

ด้วยขนาดปกติในตอนพับที่ไม่ได้วางจักรยาน สามารถจัดเก็บในช่องท้ายรถสำหรับรถ 5 ประตู (Hatchback) หรือรถ SUV MPV ได้อย่างสบาย หรือจะใส่ในกระโปรงหลังของรถเก๋งก็ใส่ได้ไม่มีปัญหา

เราดูส่วนต่างๆ มาจนครบแล้ว ทีนี้ลองมาดูการติดตั้งและใช้งานจริงกัน อธิบายเป็นตัวหนังสืออาจจะไม่เห็นภาพ ดูจากวีดีโอที่ทางทีมงานจัดทำไว้ด้านล่างดีกว่า จะเข้าใจการใช้งานได้ทันที  

วีดีโอสาธิตการติดตั้ง(ภาษาไทย)

ข้อมูลทางเทคนิค

: บรรทุกจักรยานได้ 2 คัน

: รับน้ำหนักการบรรทุกได้ 46 กก.

: รองรับน้ำหนักจักรยานต่อหนึ่งคันสูงสุด 25 กก.

: ระยะห่างเวลาวางจักรยาน 19 cm

: ยาว 103 cm , กว้าง 59 cm

: น้ำหนักแร็คจักรยาน 14.3 กก.

: รองรับขนาดของเฟรมตั้งแต่ 20-80 mm

ข้อสรุป

ความสวยงามและการออกแบบ : 8.5/10

รูปร่างหน้าตา สีสันและการออกแบบ ทำออกมาได้อย่างลงตัว ดูสวยงาม แทบไม่มีข้อตำหนิ ถ้าวางเฉยๆ โดยที่ยังไม่ติดรถ เราจะให้คะแนนเต็มในจุดนี้ไปแล้ว เพียงแต่คะแนนจะถูกตัดออกไปบ้างแบบไม่มีทางเลือก เนื่องจากขนาดและรูปทรงของรุ่นนี้ เมื่อติดกับรถที่ขนาดเล็กจนถึงกลาง จะดูสวยงามลงตัวมากๆ แต่จะมีความไม่ค่อยสวยงามอยู่บ้างเมื่อติดกับรถขนาดใหญ่เช่นรถตู้ เพราะขนาดจะดูเล็กเกินไปไม่สมส่วนเมื่อเทียบกับขนาดรถ ซึ่งถ้าเป็นรถขนาดใหญ่แล้ว ทางเราขอแนะนำเป็น THULE EuroClassic มากกว่า

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม รุ่น THULE EuroClassic 928

http://www.d2autorack.com/index.php?route=product/product&path=2&product_id=11

  

ขนาดและน้ำหนัก  : 9/10 

ขนาดและน้ำหนักโดยรวมของ แร็คจักรยาน THULE VeloCompact 925 ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ค่อนข้างดี มีขนาดที่กะทัดรัดไม่ใหญ่จนเกินไป น้ำหนักถือว่าพอดีๆ เรียกว่าโดยรวม ผู้หญิงยกได้ ผู้ชายยกสบาย ด้วยขนาดแบบนี้สามารถเก็บใส่พื้นที่ท้ายรถได้แบบเหลือๆ ซึ่งถ้าว่ากันที่ขนาดและน้ำหนักอย่างเดียวแล้วละก็ แร็คจักรยานท้ายรถ ในลักษณะแพลตฟอร์มแบบนี้ คงจะหารุ่นอื่นมาเทียบได้ยาก

คุณสมบัติโดยรวม : 8.5/10

ออฟชั่นต่างๆ มีมาให้เกือบจะครบทุกอย่าง เท่าที่ แร็คจักรยานท้ายรถ จะพึงมี ไม่ว่าจะเป็นการรับน้ำหนักที่รับได้มากถึง 46 กก. ความแข็งแรง และขนาดที่ครอบคลุมรองรับจักรยานได้ทุกประเภท , ฟังชั่นการเอน 45 องศา เพื่อเปิดประตูท้ายโดยไม่ต้องถอดแร็คจักรยานออก , สัญญาณไฟท้าย , กุญแจล็อคกันขโมยทั้งตัวแร็คจักรยานเองและตัวจักรยาน จะมีจุดที่ถูกเราตัดคะแนนออกไปบ้าง ตรงจำนวนของการบรรทุก ที่บรรทุกได้ 2 คันเท่านั้น และไม่สามารถเพิ่มจำนวนคันทีหลังได้ ซึ่งถือเป็นจุดอ่อนของรุ่นนี้ ซึ่งถ้าผู้ใช้ยังมีความลังเลในจำนวนจักรยานแล้วล่ะก็ ทีมงานแนะนำให้ใช้รุ่น VeloCompact 927 ที่บรรทุกได้ 3 คัน และเพิ่มเป็น 4 คันที่หลังได้ หรือรุ่น EuroClassic G6 928 แบบ 2 คัน เพิ่มเป็น 3 คันในภายหลังได้ไปเลยดีกว่า

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม รุ่น THULE EuroClassic 928

http://www.d2autorack.com/index.php?route=product/product&path=2&product_id=11  

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม รุ่น THULE VeloCompact 927

http://www.d2autorack.com/index.php?route=product/product&path=2&product_id=10

 

การใช้งาน : 9/10

ด้วยขนาดและน้ำหนักที่ไม่มาก ทำให้การยกมาติดกับ Towbar ทำได้อย่างง่ายดาย การวางจักรยานไม่มีปัญหาติดขัด ติดตั้งได้อย่างรวดเร็ว พร้อมจะออกเดินทางได้ในเวลาไม่เกิน 5 นาทีนับตั้งแต่ยกแร็คมาติดจนถึงวางจักรยานจนเสร็จ ทุกอย่างดูลงตัว ถ้าคุณมีจักรยานแค่ 1-2 คันแล้วกำลังมองหาแร็คจักรยานท้ายรถแล้วล่ะก็ THULE VeloCompact 925 คือทุกๆอย่างที่คุณต้องการจริงๆ

บทความนี้จัดทำและเผยแพร่โดยทีมงาน

THULE CLUB & D2 AutoRack